เงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เงินเดือนไม่ถึง 7 หมื่นได้แน่


 เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ตั้งโต๊ะแถลงรายละเอียด โครงการ ดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ยืนยัน เงินเดือนไม่ถึง 7 หมื่น และหรือเงินฝากไม่ถึง 5 แสนบาท ได้ทุกคน พร้อมขยายขอบเขตเป็นระดับอำเภอ


นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวถึง โครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท โดยมีเงื่อนไขเบื้องต้น คือ

  • คนไทยที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป
  • รายได้ต่ำกว่า 70,000 บาท/เดือน 
  • และ/หรือเงินฝากต่ำกว่า 500,000 บาท
  • ใช้สิทธิ์ได้ 6 เดือน
  • ขยายพื้นที่ครอบคลุมระดับอำเภอตามบัตรประชาชน
  • พัฒนาแอปพลิเคชัน"เป๋าตัง"
  • คาดว่าจะใช้ได้ช่วง พ.ค.2567
  • สิ้นสุดโครงการ 2570 
  • กลุ่มเป้าหมายประมาณ 50 ล้านคน
นอกจากนี้ จัดทำโครงการ E-refund สำหรับผู้ที่ไม่ได้รับสิทธิ์เงินดิจิทัลวอเล็ต 10,000 บาท ซึ่งมีเงื่อนไขคือ สามารถนำไปลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากการซื้อสินค้าและบริการมูลค่า 50,000 บาท โดยใช้ใบกำกับภาษีมาประกอบการยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

อย่างไรก็ตาม เงื่อนไขนี้เป็นไปตามคำแนะนำของธนาคารแห่งประเทศไทยและสภาพัฒน์ เนื่องจากข้อมูลของหลายโครงการในอดีตแสดงให้เห็นว่าคนกลุ่มรายได้ดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะก่อให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากกว่าอีกกลุ่มอย่างมีนัยยะสำคัญ และย้ำว่า โครงการจะไม่ทำให้เกิดเงินเฟ้อตามที่หลายฝ่ายกังวล เพราะสถานการณ์เงินเฟ้อในปัจจุบันของไทย อยู่ในสภาวะที่ต่ำอยู่แล้ว

ออก พรบ.กู้เงิน เป็นวงเงิน 500,000 ล้านบาท โดยมีแผนจ่ายคืนภายใน 4 ปี
นายเศรษฐายังได้ชี้แจงรายละเอียดที่มาของงบประมาณโครงการด้วยว่า คำตอบที่เป็นไปได้มากที่สุดในการดำเนินนโยบายนี้ คือการออก พรบ.เป็นวงเงิน 500,000 ล้านบาท ซึ่งมีความโปร่งใส ภายใต้การตรวจสอบถ่วงดุลในระบบรัฐสภา ซึ่งตนมั่นใจว่า จะได้รับการอนุมัติโดยรัฐสภา และเป็นไปตามมาตรา 53 พรบ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 พรบ.การกู้เงินดังกล่าวจะระบุวัตถุประสงค์ของการกู้เงิน ระยะเวลาในการกู้เงิน แผนงานหรือโครงการที่ใช้จ่ายเงินกู้ วงเงินที่อนุญาตให้ใช้จ่ายเงินกู้ และหน่วยงานของรัฐ

ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบการดำเนินแผนงานหรือโครงการที่ใช้จ่ายเงินกู้ใน โครงการ Digital Wallet ให้ชอบด้วยรัฐธรรมนูญและกฎหมาย และรัฐบาลจะทำการกู้เงิน ก็ต่อเมื่อ มีการนำเงินไปใช้และนำมาขึ้นเป็นเงินสด ซึ่งนี่จะเป็นการทำให้เงินในระบบทั้งหมดใหญ่ขึ้นกว่า 500,000 ล้าน ซึ่งจะหมุนเวียนและกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างมีนัยยะ ผสมกับงบประมาณ 100,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการดำเนินโครงการที่กล่าวไปทั้งหมด ทุกท่านไม่ต้องห่วงเรื่องของการใช้เงินคืน รัฐบาลจะมีแผนจัดสรรเงินงบประมาณมาเพื่อจ่ายคืนเงินส่วนที่เป็นเงินกู้ตลอดระยะเวลา 4 ปี

ความคิดเห็น