ทำไม? ต้องวางระบบสายดิน ของระบบไฟฟ้าในบ้าน


การไฟฟ้านครหลวงได้ออกประกาศให้ผู้ยื่นขอไฟฟ้ารายใหม่จะต้องเดินสายไฟฟ้าให้มีระบบต่อลงดินรวมทั้งต้องติดเต้ารับไฟฟ้าทุกตัวให้เป็นเต้ารับ ชนิดที่มีขั้วสำหรับสายดิน


ระบบสายดิน (Grounding System)


ระบบสายดิน ของระบบไฟฟ้าในบ้าน

ตั้งแต่ วันที่ 1 สิงหาคมพ.ศ. 2539 การไฟฟ้านครหลวงได้ออกประกาศให้ผู้ยื่นขอไฟฟ้ารายใหม่จะต้องเดินสายไฟฟ้าให้มีระบบต่อลงดินรวมทั้งต้องติดเต้ารับไฟฟ้าทุกตัวให้เป็นเต้ารับ ชนิดที่มีขั้วสำหรับสายดิน

ระบบสายดิน (Grounding System)

และตั้งแต่ พ.ศ. 2539 มาจนถึงปัจจุบันมาตรฐานในเรื่องของการติดตั้งสายดินจึงได้กลายมาเป็นกฎข้อบังคับที่การไฟฟ้านครหลวงได้นำมาใช้ และหลังจากนั้นการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคก็ได้นำข้อบังคับนี้เข้ามาใช้ด้วยเช่นกันซึ่งรายละเอียดหลักๆในข้อบังคับนี้ เป็นการกำหนดให้ผู้ใช้ไฟฟ้าที่ขอใช้ไฟฟ้าใหม่รวมทั้งผู้ใช้ไฟฟ้าที่ยื่นขอเพิ่มขนาดมิเตอร์ไฟฟ้า ต้องปฏิบัติตามในเรื่องของการติดตั้งระบบสายดินควบคู่กับระบบไฟฟ้าที่ติดตั้ง

สายดินมีไว้เพื่ออะไร ?

สายดินที่ติดตั้งในระบบไฟฟ้า มีขึ้นเพื่อเสริมให้เกิดความปลอดภัยต่อการใช้ไฟฟ้า ในกรณีที่เกิดไฟรั่วลงบนโครงเครื่องใช้ไฟฟ้า กระแสไฟฟ้าส่วนที่รั่วออกมานี้ ก็จะใช้สายดินเป็นเส้นทางในการไหลลงดิน แทนที่จะไหลผ่านร่างกายของมนุษย์ในกรณีที่เผลอไปสัมผัสนั่นเอง
ซึ่งสายดินจะทำงานได้โดยสมบูรณ์ ปลายสายด้านหนึ่งของสายดินต้องมีการต่อลงดินด้วยวัสดุที่มีคุณสมบัติเป็นตัวนำไฟฟ้าส่วนปลายสายอีกด้านหนึ่งต่อเข้ากับพื้นผิวหรือโครงเครื่องใช้ไฟฟ้าซึ่งเป็นส่วนที่มีการเข้าถึงและสัมผัสได้โดยผู้ใช้งานหรือบุคคลทั่วไป
และไม่เพียงแค่การป้องกันไม่ให้ผู้ใช้ไฟฟ้าได้รับอันตรายจากการถูกไฟฟ้าดูดเท่านั้น แต่ในบางกรณี สายดินยังมีส่วนช่วยในการจัดการกับสัญญาณรบกวนอีกด้วย

ความคิดเห็น